วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สวยเทพ! ช่างภาพมะกัน ตระเวนเก็บภาพน้ำแข็งขั้วโลกเหนือ




          หนึ่งในภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ดูเงียบสงบ เย็นเยียบ และเวิ้งว้างสุดลูกหูลูกตา คงเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากดินแดนที่อยู่สุดขั้วทั้งสองของโลกกลม ๆ ใบนี้ แค่การเดินทางไปถึงก็ยากแล้ว การจะใช้ชีวิตอยู่ในสภาพอากาศที่หนาวเหน็บอย่างโหดร้าย รวมทั้งเฝ้ารอเก็บภาพช็อตสำคัญสุดประทับใจ คงเป็นเรื่องยากยิ่งกว่า...

         แต่สำหรับ "พอล ซอเดอร์" ช่างภาพวัย 51 ปี จากซีแอตเติล อเมริกา ผู้ใช้เวลาเกือบสิบปีตระเวนเดินทางทั่วแถบขั้วโลกเหนือ ไม่ว่าจะเป็น อลาสก้า, กรีนแลนด์, นอร์เวย์ ฯลฯ กลับมองว่ามันมีเสน่ห์และเป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก ที่สำคัญคือเขากำลังบันทึกภาพความหนึ่งความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่เกิดขึ้นกับโลก โดยมีสาเหตุจากภาวะโลกร้อนอันทำให้น้ำแข็งละลายเร็วขึ้น ๆ ในทุกปีนั่นเอง 

 

          รายงานจากเว็บไซต์เดลิเมลดอทคอม ระบุว่า ด้วยความมุ่งมั่นพยายามในภารกิจตระเวนเดินทางต่อเนื่อง ไปยังแถบขั้วโลกเหนือเพื่อเก็บภาพความมหัศจรรย์ และบรรยากาศของดินแดนน้ำแข็งที่เวิ้งว้าง อันกินเวลายาวนานเกือบสิบปีนี้ ทำให้ชุดภาพถ่ายที่แสนจับใจ ชวนให้หลงใหลและตกตะลึงไปพร้อม ๆ กันของ พอล ได้รับรางวัล Veolia Environment Wildlife Photographer ประจำปี 2011 ไปครอง ซึ่งเมื่อได้ชมภาพผลงานของเขาแล้ว ก็ต้องนับว่าสมกับรางวัลที่ได้รับนี้แล้วจริง ๆ

 

          พอลกล่าวถึงชุดภาพถ่ายของเขาว่า เขาใช้ความพยายามนานหลายปี ที่จะเก็บภาพในมุมและช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบที่สุด อย่างยามที่ธารน้ำแข็งหรือกลาเซียกำลังแตกตัว, ภาพภูเขาน้ำแข็งทั้งส่วนที่เห็นเป็นก้อนอยู่เหนือผิวน้ำ ในขณะที่ส่วนของฐานจมอยู่ใต้ผิวน้ำอันเย็นเยียบ, ภาพน้ำแข็งที่พื้นผิวของมันดูแปลกตาไปจากที่เคย เนื่องด้วยกำลังละลายจากอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้น และยังมีภาพความงามของดินแดนแห่งน้ำแข็ง ที่ชวนให้ตะลึงและสะกดให้หลงไหล อีกหลายภาพที่เขาทุ่มทั้งกำลังกาย และกำลังใจ เสี่ยงตายไปเก็บภาพเหล่านั้นมา

          "ครั้งหนึ่งผมพยายามเข้าไปเก็บภาพ น้ำแข็งที่ละลายและถูกลมกัดเซาะจนเกิดเป็นซุ้มโค้งขึ้นมา ผมรู้ว่ามันอันตรายมากที่จะเข้าไปใกล้ เพราะมันสามารถถล่มลงมาได้ทุกเมื่อ แต่ถ้าผมอยากได้ภาพสวย ๆ แบบที่ผมต้องการ นั่นก็หมายความว่าผมต้องพายเรือลำเล็ก ๆ นี้ ไปอยู่ด้านใต้มัน" พอลพูดถึงการทำงานของตัวเอง เมื่อเขาได้กลับมานั่งดูภาพผลงานของตัวเอง แล้วก็ตระหนักขึ้นได้ว่าในสิ่งที่เขาทำอยู่ในขณะนั้นมันเสี่ยงอันตรายมากเพียงใด

          "คุณรู้ไหมว่าการทำงานในอากาศที่หนาวจัดจนมือคุณแข็งจนแทบกระดิกนิ้วไม่ได้ แล้วปากก็ซีดจนเป็นสีฟ้าอย่างนั้น มันยากอยู่เหมือนกันนะ" พอล กล่าว และว่า มีบางครั้งที่เรือท่องเที่ยวของชาวบ้านที่พอจะอาศัยอยู่แถวนั้นผ่านมา และตะโกนบอกเขาว่าสิ่งที่เขาทำอยู่มันอย่างกับกำลังเอาชีวิตมาทิ้ง แต่เขาก็ตะโกนตอบกลับไปแบบติดตลกว่า "อย่าเอาเรื่องนี้ไปฟ้องแม่ผมนะ!!"


 

          แหมม.. ดูท่าทางคุณลุงพอลอายุครึ่งร้อยคนนี้คงจะเก๋าไม่เบา แต่ก็ต้องขอขอบคุณความเก๋าของคุณลุง ที่ทำให้เราได้มีโอกาสยลโฉมภาพถ่ายสวย ๆ จากดินแดนเหน็บหนาวอันห่างไกล และที่สำคัญมันกำลังจะเปลี่ยนแปลงสภาพไปจากเดิม เหตุเพราะปรากฏการณ์โลกร้อน ที่มีมนุษย์เป็นตัวการสำคัญที่ก่อขึ้นมานี้ด้วย ขอให้ความสวยงามที่แฝงไว้ด้วยสาเหตุที่แสนจะไม่น่าอภิรมย์นี้ ช่วยเตือนใจเราไปทุกครั้งที่ได้ชื่นชมมัน ว่าถึงเวลาเสียทีที่จะต้องหันกลับมาดูแลโลกของเราอย่าจริงจัง


 


 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
Credit เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก worldfoto.com
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น