ยิว เป็นชนที่ไม่มีแผ่นดินแต่ไหนแต่ไรแล้ว เป็นชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่แถบชายแดนของปาเลสไตล์ เมื่อประชากรยิวเพิ่มมากขึ้น จนเกิดปัญหาเรื่องที่อยู่ บางประเทศจึงโอบอุ้มเข้าไปในประเทศ และประเทศที่รับเข้าไปเยอะที่สุดคือเยอรมัน หลาย สิบปีผ่านไปยิวเพิ่มจำนวนขึ้นนับสิบล้านคน แต่นั่นก็ไม่มีอะไรน่าห่วง แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ยิวต้องการที่จะหาประเทศเป็นของตัวเอง ในตอนนั้นเป้าหมายก็คือเยอรมัน ยิวได้แทรกซึมไปอยู่ทั่วเยอรมัน ที่เหลือก็แค่ทำให้เยอรมันล่มสลาย
ชาวยิวในดินแดนอารเบียที่ยังเหลืออยู่บางส่วน
คน ยิวมีความฉลาดหลักแหลม พวกเขาเริ่มจากการฟิตเด็กของยิวทุกคนให้เรียนเก่ง ใช้มาตรการเข้มงวดมาก ถ้าใครสอบตกคือตาย เฝ้าปลูกฝังความคิดล้มล้างประเทศเยอรมัน เมื่อเด็กโตขึ้น ก็ส่งเข้าไปทำงานในทุกธุรกิจของเยอรมัน แล้วทำการซื้อหุ้น ที่ดิน และกิจการรัฐ โดยเฉพาะธุรกิจรถยนต์ ซึ่งตอนนั้น เยอรมันเป็นผู้ผลิตรายแรกที่ส่งรถยนต์ออกขาย นานเข้ายิวทำเกือบสำเร็จ ทุกธุรกิจมียิวเป็นเจ้าของ ยกเว้นทางด้านการทหาร แต่เมื่อนายพล อะดอฟ ฮิตเลอร์ รู้ เข้าถึงแผนนี้ของชาวยิว ที่ตัวเขาเองก็แทบจะไม่เคยสังเกตเลยว่า เยอรมันกำลังโดนกลืนเกือบจะหมดแล้ว เมื่อเยอรมันล่วงรู้ถึงแผ่นการนี้แล้วมีหรือที่ มหาอำนาจอย่างเยอรมันจะอยู่นิ่งเฉย เล่นโดนชนกลุ่มน้อยอย่างยิวเหยียบหน้าแบบไม่รู้ตัวแบบนี้ และแล้วการล้างเผ่าพันธ์ยิวก็เกิดขึ้น แบบว่าอยู่ในประเทศให้เค้าฆ่าเลย ใครก็ช่วยไม่ได้ เพียง 2 ปี ประชากรยิวนับสิบๆล้าน เหลือเพียงไม่กี่แสน จำนวนนั้นก็อพยพออกนอกประเทศ (หนึ่งในจำนวนยิวผู้รอดไปคือ อัลเบิตร์ ไอน์สไตน์ นี่คือหลักฐานว่า ยิวฟิตเด็กให้ฉลาดแค่ไหน) แล้วการยึดครองของยิวก็ล้มเหลว
นี้ เป็นแค่เพียงด้านหนึ่งในประวัติศาสตร์ ทุกอย่างมีเหตุมีผลของมัน แต่ภาพการเค้นฆ่าคนยิวอย่างโหดร้ายก็ทำให้ฮิตเลอร์และนาซีถูกมองว่า เป็นมนุษย์ที่ไม่มีหัวใจ ทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างเลือดเย็น แต่ในความรู้สึกของพวกเขา สิ่งเหล่านี้อาจเป็นหน้าที่ที่พวกเขาต้องทำก็ได้ แต่สงคราม มันไม่มีใครถูก มีแต่ความสูญเสีย เราเรียนรู้ประวัติศาสตร์เพื่อนำไปใช้ปรับปรุงและแก้ไข ไม่ใช่เดินตามให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ถ้าเรารู้อยู่แล้วว่ามันไม่ดี ไม่เกิดประโยชน์แต่ยังคงทำตามก็ไม่ต่างกับคนที่ ไม่มีการพัฒนา
เด็กชาวปาเลสไตน์โดนสังหารอย่างเ***้ยมโหด“ใน ปีดังกล่าว ไซออนิสต์ ขบวนการชาตินิยมของยิวได้บรรลุถึงจุดสำคัญในประวัติศาสตร์ หลังจากที่พวกเขาต้องถูกเนรเทศไปนานถึง 2,000 ปี ชาวยิวได้รับสิทธิในการปกครองตนเองบนดินแดนปาเลสไตน์และได้รับการยอมรับจาก นานาชาติ”
แต่ในปีเดียวกันนั่นเอง ชาวยิวซึ่งไฝ่ฝันมานานที่จะมีแผ่นดินของตนเอง ได้ ประกอบอาชญากรรมต่อชนพื้นเมืองปาเลสไตน์ หมู่บ้านกว่า 500 แห่ง เมือง 11 เมือง ถูกทำลาย และชาวปาเลสไตน์กว่า 750,000 ชีวิต ต้องถูกขับไล่และลบล้าง (Ethnic Cleansing) ออกจากแผ่นดินของตนเอง
เขา กล่าวว่า อิสราเอลไม่เพียงแต่ไม่ยอมรับความจริงในเหตุการณ์ปี 1948 เท่านั้น แต่ยังไม่ยอมรับความจริงในเหตุการณ์สำคัญหลังจากนั้นอย่างน้อยอีก 3 ครั้ง นั่นก็คือ การยึดครองเขตเวสแบงค์และฉนวนกาซ่า การลุกฮือของชาวปาเลสไตน์ในปี 2000 และการที่ชาวปาเลสไตน์ต้องตกเป็นเหยือของความรุนแรงที่ก่อขึ้นโดยอิสราเอล โดยเฉพาะนับแต่เดือนเมษายน ปี 2002 เป็นต้นมา
มัน เป็นอย่างนี้ จนกระทั่งถึงทศวรรษที่ 80 เมื่อเขา และนักประวัติศาสตร์คนอื่นๆ อย่าง Benny Morris ได้นำความจริงมากล่าวต่อชาวอิสราเอล ทำให้ชาวยิวได้ฟังเรื่องราวที่แตกต่างออกไปจากที่พวกเขาเคยได้ยิน มันเป็นสิ่งที่ชาวปาเลสไตน์เล่าขานกันมานับแต่ปี 1948 แล้ว อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ถูกเปิดเผยต่อชาวยิวไม่ได้รับการตอบสนองมากนักเนื่องจากโฆษณาชวน เชื่อที่เป็นระบบของไซออนิสต์นั่นเอง
ใน ตอนเริ่มแรก, Pappe ระบุ, เขตยึดครอง (ฝั่งตะวันตกและฉนวนกาซ่า) ซึ่งเป็นครอบคลุมพื้นที่เพียง 20% ของดินแดนปาเลสไตน์ในอดีต ได้รับการปฏิบัติอย่างเลวร้ายแ ละโหดเ***้ยมจากอิสราเอล บ้านเรือนถูกทำลาย ประชาชนถูกขับไล่และและถูกฆ่า แต่สิ่งที่สังคมชาวยิวกลับเห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการก่อประโยชน์และสร้างความเจริญให้ พวกเขาต้องการมอบวิทยาการและความก้าวหน้าแก่ชาวปาเลสไตน์ สังคมชาวยิวไม่ยอมรับความจริง
เมื่อ มีการลุกฮือของชาวปาเลสไตน์ในปี 2000 ชาวยิวเกิดอาการ “ไม่ยอมรับความจริง” อีกเช่นกัน ไม่ยอมรับว่ามันเกิดขึ้นเพราะชาวปาเลสไตน์สุดจะทนกับการยึดครองและถูกละเลย สิทธิอย่างรุนแรงนับแต่ปี 1967-2000
เขาระบุว่า “สังคมชาวยิวในอิสราเอลปฏิเสธที่จะยอมรับกับความจริง และพอใจที่จะเพิกเฉยต่อพัฒนาการที่นำมาซึ่งการลุกฮือครั้งนั้น”
เขา ระบุว่า นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2000 อิสราเอลกลายเป็นรัฐทหาร “คุณสามารถเห็นได้จากเปอร์เซนต์ของนายพลที่ร่วมในรัฐบาล และความเป็นจริงก็คือว่า กองทัพได้เข้าไปตัดสินใจนโยบายหลักๆเกี่ยวกับชาวปาเลสไตน์ อย่างไรก็ตามสื่อ มักจะชี้ว่ากองทัพกำลังกลายเป็นเครื่องทางการเมืองให้กับนักการเมือง ความจริงที่เกิดขึ้น มันตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
ภาวะ “การไม่ยอมรับความจริง “ ครั้งสำคัญ ซึ่งอิสราเอลกำลังค้นพบมันด้วยตนเองก็คือเหตุการณ์นับแต่เดือนเมษายน 2002 นับแต่นั้นมา ชาวปาเลสไตน์ต้องดำรงชีวิตอยู่ภายใต้กฏอัยการศึก ขาดซึ่งอาหาร การสาธารณสุข และการสาธารณูปโภคพื้นฐาน
ที่เลวร้ายที่สุด ก็คือพฤติกรรมของทหารอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์ตามจุดตรวจต่างๆ
มันเกิดขึ้นเป็นประจำ แต่ตอนนี้มันเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ
เขากล่าวถึงข่าวเหตุการณ์ที่ TV อิสราเอลช่องหนึ่งไปติดตามข่าวที่เกิดขึ้นที่จุดตรวจในวันหนึ่ง สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ทหารยิวบังคับให้ชาวปาเลสไตน์เล่นเกมส์รัสเซี่ยนรูเลต ภาพ ดังกล่าวถูกนำเสนอทาง TV แน่นอนว่า TV ช่องดังกล่าวต้องถูกชาวบ้านต่อว่า แต่กลับไม่ใช่เรื่องที่ทหารยิวไปบังคับให้ชาวปาเลสไตน์เล่นเกมส์นั้น แต่กลับต่อว่า การกระทำดังกล่าว อาจเป็นการเปิดโอกาสให้ศัตรู(ที่กำลังถือปืนอยู่)
ชาวยิว (ภาษาฮิบรู: ??????, ภาษาอังกฤษ: Jew) ชนชาติหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน อยู่ในประเทศอิสราเอล
ประวัติศาสตร์
ชนชาติอิสราเอลได้ก่อสร้างชาติจากชนเผ่าเชื้อสายของจาขอบหรืออิสราเอล ทั้ง ๑๒ เผ่า ช่วงนั้นจะเรียกว่า เลวี เบนยามิน และยูดาห์ กษัตริย์เดวิดก็กำเนิดในชนเผ่านี้ ชนชาติฮิบรูในช่วงที่มีกษัตริย์ได้ตกเป็นทาสของบาบิโลน และเปอร์เซีย และหลังจากถูกจับเป็นเชลยอยู่หลายปีได้เดินทางกลับไปสร้างชาติอีกครั้ง จนมาถึงสมัยพันธสัญญาใหม่ กองทัพโรมมหาอำนาจของโลกได้เข้ายึดกรุงเยรูซาเล็ม ช่วงสุดท้ายก่อนอิสราเอลจะสิ้นชาติ พระคริสต์ได้ทรงประสูติ และบอกว่าพระองค์คือบุตรของพระเจ้า จนนำไปสู่การตรึงกางเขนโดยสาวกของพระเองค์ที่ชื่อยูดัส เอสคาริโอ คำว่ายิวน่าจะเพี้ยนมาจากคำว่ายูดาสJudas
แม้ในปัจจุบันก็ยังมีกรณีพิพาทในดินแดนฉนวนกาซ่าและเขตชายฝั่งตะวันตก (เวสแบงค์) ระหว่างชาวยิวและชาวอาหรับ ซึ่งสหประชาชาติล้มเหลวอย่างสมบูรณ์ ทุกวันนี้ก็ยังหาข้อยุติ หรือจะเห็นสันติภาพยังนับว่าห่างไกลเหลือเกิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น