ทุกวันนี้ น้อยคนจริง ๆ ที่จะไม่รู้จัก เฟซบุ๊ก (Facebook) และแน่นอนว่าเมื่อมีการเอ่ยถึงเฟซบุ๊กแล้ว ชื่อของผู้ก่อตั้งคนสำคัญอย่าง "มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก" (Mark Zuckerberg) ก็เป็นบุคคลที่หลาย ๆ คนทั่วโลก ต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน
ด้วยความนิยมเป็นอย่างมาก จึงทำให้เฟซบุ๊กเจริญเติบโตไปอย่างก้าวกระโดด สามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ มีผู้ใช้งานทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 750 ล้านคน ดังนั้น นี่จึงเป็นเหตุที่ตอกย้ำว่าทำไมเฟซบุ๊ก ถึงทำให้ ซัคเกอร์เบิร์ก และผู้ร่วมก่อตั้งคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นมหาเศรษฐีกันโดยพร้อมเพรียง
แต่สำหรับสิ่งที่เรากำลังจะนำเสนอต่อไปนี้ไม่ใช่เรื่องของความประสบความสำเร็จของเฟซบุ๊กแต่อย่างใด หากแต่จะพาทุก ๆ ท่านไปรู้จักกับคน ๆ หนึ่งที่สนิทชิดเชื้อกับ ซัคเกอร์เบิร์ก เป็นอย่างดี เพราะเขาคนนี้เคยเป็นรูมเมทกับเจ้าพ่อเฟซบุ๊กตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ...เขาคือ "โจ กรีน" (Joe Green)
อย่างที่เราทราบ ๆ กันดีว่า ซัคเกอร์เบิร์ก เห็นแววว่า เฟซบุ๊กจะได้รับความนิยมและเป็นที่สนใจจากวัยรุ่น เขาจึงได้หยุดเรียนกลางคัน เพื่อออกมาพัฒนาเว็บไซต์เฟซบุ๊กร่วมกับเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ แต่สำหรับ กรีน แล้ว เขารู้เห็นความเป็นมาของเฟซบุ๊กทุกอย่าง เพียงแต่เขาไม่ออกมาร่วมด้วยเท่านั้น เพราะอยากที่จะเรียนให้จบซะก่อนมากกว่า
สื่อโทรทัศน์ของสหรัฐฯ อย่าง "เอบีซี นิวส์" (ABC News) ได้ไปสัมภาษณ์ถึงเรื่องราวที่ผ่านมาของ กรีน ทำให้ทราบว่า จริง ๆ แล้วไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจะออกไปร่วมแจมกับการก่อตั้งเฟซบุ๊ก แต่ด้วยเหตุผลทางครอบครัว เลยทำให้เขาจำใจไม่ได้ไปด้วย ซึ่งทาง กรีน เอง ก็ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า..
"ตอนนั้นพ่อของผมซึ่งเป็นอาจารย์ด้วย ไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ที่จะเห็นผมเลิกเรียนกลางคัน เพื่อออกไปทำเฟซบุ๊ก ผมเลยตัดสินใจอยู่เรียนต่อที่ฮาร์เวิร์ดจนสำเร็จการศึกษาไปในที่สุด"
ด้วยความนิยมเป็นอย่างมาก จึงทำให้เฟซบุ๊กเจริญเติบโตไปอย่างก้าวกระโดด สามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ มีผู้ใช้งานทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 750 ล้านคน ดังนั้น นี่จึงเป็นเหตุที่ตอกย้ำว่าทำไมเฟซบุ๊ก ถึงทำให้ ซัคเกอร์เบิร์ก และผู้ร่วมก่อตั้งคนอื่น ๆ ได้กลายเป็นมหาเศรษฐีกันโดยพร้อมเพรียง
แต่สำหรับสิ่งที่เรากำลังจะนำเสนอต่อไปนี้ไม่ใช่เรื่องของความประสบความสำเร็จของเฟซบุ๊กแต่อย่างใด หากแต่จะพาทุก ๆ ท่านไปรู้จักกับคน ๆ หนึ่งที่สนิทชิดเชื้อกับ ซัคเกอร์เบิร์ก เป็นอย่างดี เพราะเขาคนนี้เคยเป็นรูมเมทกับเจ้าพ่อเฟซบุ๊กตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ...เขาคือ "โจ กรีน" (Joe Green)
อย่างที่เราทราบ ๆ กันดีว่า ซัคเกอร์เบิร์ก เห็นแววว่า เฟซบุ๊กจะได้รับความนิยมและเป็นที่สนใจจากวัยรุ่น เขาจึงได้หยุดเรียนกลางคัน เพื่อออกมาพัฒนาเว็บไซต์เฟซบุ๊กร่วมกับเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ แต่สำหรับ กรีน แล้ว เขารู้เห็นความเป็นมาของเฟซบุ๊กทุกอย่าง เพียงแต่เขาไม่ออกมาร่วมด้วยเท่านั้น เพราะอยากที่จะเรียนให้จบซะก่อนมากกว่า
สื่อโทรทัศน์ของสหรัฐฯ อย่าง "เอบีซี นิวส์" (ABC News) ได้ไปสัมภาษณ์ถึงเรื่องราวที่ผ่านมาของ กรีน ทำให้ทราบว่า จริง ๆ แล้วไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจะออกไปร่วมแจมกับการก่อตั้งเฟซบุ๊ก แต่ด้วยเหตุผลทางครอบครัว เลยทำให้เขาจำใจไม่ได้ไปด้วย ซึ่งทาง กรีน เอง ก็ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า..
"ตอนนั้นพ่อของผมซึ่งเป็นอาจารย์ด้วย ไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ที่จะเห็นผมเลิกเรียนกลางคัน เพื่อออกไปทำเฟซบุ๊ก ผมเลยตัดสินใจอยู่เรียนต่อที่ฮาร์เวิร์ดจนสำเร็จการศึกษาไปในที่สุด"
หลังจากที่ กรีน เรียนจบในปี 2004 เขาก็ได้มาทำงานโปรโมทการหาเสียงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้กับ นายจอห์น เคอร์รี (John Kerry) แต่หลังจากนั้นจนมาถึง ณ ปัจจุบันนี้ เขาเองได้ดำเนินงานด้านการบริจาคออนไลน์ที่มีชื่อว่า "Causes" ซึ่งเป็นเครือข่ายใหญ่ที่สุดที่ทำงานร่วมกับเฟซบุ๊กอีกด้วย
นอกจากความสัมพันธ์ในการเป็นรูมเมทกับ ซัคเกอร์เบิร์ก แล้ว โจ กรีน ยังถือเป็นคนที่เคยร่วมด้วยช่วยคิดกับ ซัคเกอร์เบิร์ก ในการทำ "FaceMash" เว็บไซต์ที่บอกเล่าเรื่องราวของเหล่านักศึกษาชาย ก่อนที่จะได้รับการต่อยอดและพัฒนาจนมาเป็นเฟซบุ๊กให้ได้ใช้กันไปทั้งโลกอย่างในทุกวันนี้
สำหรับ Causes เป็นเว็บไซต์บริจาคออนไลน์ที่มีผู้เข้ามาร่วมบริจาคกันมากมายไม่ต่ำกว่า 170 ล้านคน ที่สำคัญยังมีเงินเพื่อการบริจาคกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว ๆ 1,500 ล้านบาทอีกด้วย ซึ่งจะว่าไปแล้ว เพื่อน ๆ รอบตัวของ ซัคเกอร์เบิร์ก นั้น เรียนจบกันมาก็มีงานธุรกิจที่สร้างฐานะให้ตัวเองอย่างเป็นกอบเป็นกำมากมายเลยจริง ๆ เห็นแบบนี้แล้ว บอกได้เลยว่า อยากจะเป็นเพื่อนของ ซัคเกอร์เบิร์ก บ้างซะแล้วสิ ฮี่ ๆ ..
นอกจากความสัมพันธ์ในการเป็นรูมเมทกับ ซัคเกอร์เบิร์ก แล้ว โจ กรีน ยังถือเป็นคนที่เคยร่วมด้วยช่วยคิดกับ ซัคเกอร์เบิร์ก ในการทำ "FaceMash" เว็บไซต์ที่บอกเล่าเรื่องราวของเหล่านักศึกษาชาย ก่อนที่จะได้รับการต่อยอดและพัฒนาจนมาเป็นเฟซบุ๊กให้ได้ใช้กันไปทั้งโลกอย่างในทุกวันนี้
สำหรับ Causes เป็นเว็บไซต์บริจาคออนไลน์ที่มีผู้เข้ามาร่วมบริจาคกันมากมายไม่ต่ำกว่า 170 ล้านคน ที่สำคัญยังมีเงินเพื่อการบริจาคกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว ๆ 1,500 ล้านบาทอีกด้วย ซึ่งจะว่าไปแล้ว เพื่อน ๆ รอบตัวของ ซัคเกอร์เบิร์ก นั้น เรียนจบกันมาก็มีงานธุรกิจที่สร้างฐานะให้ตัวเองอย่างเป็นกอบเป็นกำมากมายเลยจริง ๆ เห็นแบบนี้แล้ว บอกได้เลยว่า อยากจะเป็นเพื่อนของ ซัคเกอร์เบิร์ก บ้างซะแล้วสิ ฮี่ ๆ ..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น